The Three Musketeers
Ho Chi Minh City, previously known as Saigon, had lots of arts and paintings to offer. The Vietnamese artists were good painters and their arts were very reasonably priced. I bought about 30 different paintings but there was only one I knew exactly what I wanted to do with it. It was the painting of a red tricycle. There was sort of crummy townhouses at the background but the red color of the tricycle and the vigorous man who rode it, brought the cheerful mood to the painting. And it humbly brought me back to my childhood.
The schools in the 60’s, had days off for the weekend but businesses had none. My dad for one, kept his small general merchandise store open 362 days a year and closed only 3 days to celebrate the Chinese New Year. We, my two younger brothers Kuong, Leng and I, would do any odd jobs over the weekend including delivery. And the red tricycle was the main vehicle. It’s a manual tricycle pickup which the driver had to do the pedaling from behind. This small bike could carry a rather heavy load, but needed a push when going uphill. And that was where my brothers came into play.
Kuong was the first one who jumped off the tricycle when we were slowing down and kept pushing and running at the rear of the red bike. It really helped me pedaling more swiftly. Sometimes, when we had the big load or climbing a high hill, Leng, the youngest, would also jump off the bike and help Kuong push on one side of the bike. The fun part was at the top of the hill when the tricycle started to pick up speed. Both of them would hurry and jump up on the bike before it was too fast. Well, sometimes they did, sometimes they didn’t, especially Leng who was just in his third grade. I had to push the brake at midway and wait until my siblings got on the red tricycle.
We, three of us, habitually made the deliveries together regardless whether it was a small or big load. It was fun at those ages, 12, 10, 8. We didn’t have much chance to go to the playground but we made our own as we went along.
“All for one and one for all.”
May 25, 2021
สามทหารเสือ-ตี๋ กึง เล้ง
โฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อไซง่อนมีงานศิลป์และภาพวาดให้เลือกซื้อมากมาย ศิลปินชาวเวียดนามเป็นจิตรกรที่มีความสามารถและงานของพวกเขาราคาค่อนข้างถูก เราซื้อภาพวาดได้มากมายถึง ๓๐ ภาพ แต่มีภาพเดียวที่รู้แน่ชัดว่าจะทำอะไรกับมัน
เป็นภาพวาดรถสามล้อสีแดงฉากหลังเป็นห้องแถวเก่าโทรม แต่สีแดงของรถสามล้อและชายที่ขับขี่มันอย่างทะมัดทะแมงทำให้รู้สึกถึงความโลดแล่นของสามล้อในภาพวาด ซึ่งได้ช่วยฟื้นความรู้สึกตอนวัยเด็กกลับมาได้อย่างชัดเจน
โรงเรียนในสมัยนั้นมีวันหยุดสุดสัปดาห์เหมือนสมัยนี้ แต่ร้านรวงไม่มีวันหยุด เตี่ยเปิดร้านขายของชำทุกวัน จะปิดร้านเพียง ๓ วันช่วงตรุษจีน เราและน้องชายสองคน กึงและเล้ง จะช่วยทำโน่นนี่รวมทั้งส่งของให้ลูกค้า เรามีรถสามล้อแดงเป็นพาหนะหลัก เป็นรถที่คนขับนั่งถีบจากข้างหลัง รถสามล้อคันนี้มีขนาดไม่ใหญ่แต่สามารถบรรทุกของหนักได้พอสมควร เพียงแต่ต้องการคนช่วยดันเวลาขึ้นเนิน และนั่นคือบทบาทของน้องชายสองคน
กึงจะกระโดดลงจากรถเป็นคนแรก ทันทีที่เห็นความเร็วเริ่มลดลงก็จะช่วยวิ่งไปดันที่ท้ายรถซึ่งช่วยให้รถเคลื่อนได้ดีและเพิ่มความเร็ว บางครั้งด้วยของที่บรรทุกหนักหรือต้องขึ้นเนินสูง เล้งซึ่งเป็นน้องชายคนเล็กก็จะกระโดดลงจากสามล้อแล้วช่วยเข็นกระบะด้านข้าง ที่สนุกคือพอถึงจุดบนสุดของเนิน สามล้อเริ่มมีความเร็วด้วยตัวมันเองบนทางลงเนิน ทั้งคู่ต้องรีบกระโดดขึ้นรถก่อนที่จะเร็วเกินไป บางครั้งก็ทัน บางครั้งก็ไม่ทัน โดยเฉพาะเล้งที่เพิ่งอยู่ป.๓ บ่อยครั้งเราต้องเบรคชะลอรถให้น้องๆได้ขึ้นสามล้อด้วยกัน
ไม่ว่าของจะเป็นอะไรชิ้นขนาดไหนเราสามคนต่างพร้อมที่จะช่วยกันทุกครั้ง นับว่าเป็นความสนุกในช่วงอายุ ๑๒-๑๐-๘ ขวบ พวกเราแทบไม่มีโอกาสไปสนามเด็กเล่นเหมือนเด็กอื่น แต่เราก็ช่วยกันสร้างมันขึ้นมาเองด้วยความสมัครสมานสามัคคี
๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔