Everything I Learned was from Being on the Roads
‘How’ ‘By observing and adapting.’
The coast to coast trip in 1978 probably set the tone for me to live in the US, perhaps I could say to live anywhere in the world. In those 5 weeks, there was no fixed daily destination. There were days that we couldn’t find places to stay or to dine. We had no choice but tried our luck with fishing in the streams nearby and got into national forest grounds, putting up our tent next to the bear sign warning! Yet, we were lucky most of the time, especially about eating. The towns were quite small but we always managed to find the ones we liked and they were mostly the best ones in the towns. Four decades ago, there literally had no Asian live in those small towns in the middle America.
I however, didn’t feel that I was different, as the matter of fact, I thought I was one of them. And this attitude is still with me today. I have had fond memories of this trip and couldn’t help but think that the adventure was inspired by the things that I had done with my dad when I was a child. It’s that when I was in elementary school at the age around 10 years old. My father who owned a small general merchandise wholesale business, often took me on the trip with him when he went to visit his customers in the towns nearby. I didn’t pay much attention to what and how much he made the sales because I were busy checking candies and snacks in their stores. Finding a seat in the crowded old buses were always a challenge. I often found myself comfortable on bags of rice, beans which I could even manage to nap on them. It’s not that bad for a non-paid passenger. There were a few times that we couldn’t get into the buses and back then there were not many buses in towns. Soaking…wet…dry in an hour was considered normal six decades ago.
September 9, 2022
ทุกสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ เริ่มจากการสัญจร
‘อย่างไรเหรอ’ “โดยการสังเกตและปรับตัว” การขับรถเที่ยวจากนิวยอร์คไปลอสแอนเจลีสในปี ๒๕๒๑ คงเป็นการปูทางให้เราใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกา หรือจะเรียกได้ว่าเตรียมเราให้อาศัยอยู่ได้ในทุกแห่งหนบนโลกใบนี้ ช่วง ๕ สัปดาห์นั้นเราขับรถโดยไม่รู้ว่าปลายทางของแต่ละวันจะจบลงที่ใหน หลายวันที่เราหาที่พักไม่ได้แม้แต่ร้านอาหารก็ปิดกันหมด ต้องอาศัยการตกปลาในลําธาร และเข้าไปพักค้างคืนในป่าสงวนแห่งชาติตั้งเต็นท์ข้างป้ายเตือนให้ระวังหมี!
แต่ก็นับว่าโชคดีตลอดทาง โดยเฉพาะเรื่องการกินทั้งที่ส่วนมากผ่านเมืองค่อนข้างเล็ก แต่สามารถหาร้านที่อาหารถูกปากได้เสมอ เมื่อสี่ทศวรรษที่แล้วแทบไม่มีชาวเอเชียอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆในอเมริกาตอนกลาง อย่างไรก็ตามเราไม่รู้สึกว่าตัวเองแตกต่างจากคนถิ่นนั้น คือเหมือนกับเราเป็นส่วนนึงของพวกเขา ทัศนคตินี้ยังติดตัวเรามาถึงทุกวันนี้
ความทรงจําดีๆจากการเดินทางครั้งนั้นอดคิดไม่ได้ว่าอาจจะเกิดจากที่พ่อเคยพาเราไปต่างอำเภอ ตอนนั้นอยู่ชั้นประถมอายุประมาณ ๑๐ ขวบ พ่อซึ่งเป็นเจ้าของร้านโชห่วยในตัวเมืองโคราชมักจะพาเราไปเยี่ยมลูกค้าตามอำเภอใกล้เคียง พิมาย โนนสูง กุดจิก ปากช่อง ปักธงชัย เราไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าการตรวจสอบขนมและของว่างในร้านลูกค้า ที่ท้าทายก็ตอนหาที่นั่งในรถบัสเก่าๆที่แออัด แต่พื้นรถมักจะมีกระสอบข้าวพอให้เรานั่งและงีบหลับได้ นับว่าไม่เลวทีเดียวสําหรับคนที่ไม่ต้องจ่ายค่าโดยสารแต่ก็มีหลายครั้งที่คนเต็มล้นเราไม่สามารถขึ้นรถบัสได้ และในตอนนั้นรถประจําทางมีไม่มากนัก การรอรถเป็นชั่วโมงๆถือว่าเป็นส่วนนึงของชีวิตการเป็นอยู่เมื่อห้าทศวรรษที่แล้ว