Deja Vu
October 10, 1977
Hi Mom,
Americans are easy going and friendly. They come to greet me on the streets, in the restaurants. And ‘Hi’ is the most popular word to start saying to anyone, including their mom and dad. The other day, I saw a televised college football game and there was a sign raised by a student ‘Hi Mom, I love you. Hello Dad, send money’. It’s hilarious, wasn’t it. I am learning their ways of life and I will be more or less Americanized sooner or later. Let me start with saying ‘Hi’ to you.
It has been a week since I am here in the States. The jet lag didn’t bother me but my ears. They are sore and the aching escalates over the cause of the day. I have to take off my glasses in the evening just to ease up the pain where they support the glasses rods. I as you know, have been wearing glasses for more than ten years but never experienced this pain. Could it be possible that my ears have been working too hard? Well, I naturally, want to know what people say or understand the news and weather forecast from radio. I supposed the nerves and veins in my ears are bursted to take the responsibility and digest anything comes to the drums. Thanks goodness, there are songs for easy listening along with those news.
There are lots of Elvis’s song since he was just passed a way a few weeks ago.
I heard that the ticket holders for his concert, rather than refunding for the money, they all decided to keep the tickets as their memorabilia for ‘the King’. I would do the same if I had a privilege. His songs always put me in the good moods or even a good place. Every time I hear Blue Hawaii I could picture myself there in the Islands watching the moon cascaded over the beaches continually washed by the gentle waves. Actually, there are a couple Thai songs which could do that to me. ‘Thom Mei Tem-ถมไม่เต็ม’ always brings me back to Talad Tessabarn 1, the main fresh
market in Korat at that time. We had a booth in the middle of the market hall to sell sardines, blankets, any odd merchandise which could turn into money. Squatting at the booth listening this very song repeatedly 10-20 times a day eased up the 10 hours shift. Our neighbor vendors who sold veggies, fruit, flowers, fishes, seafood, pork, chicken, etc., had their own transistors. Though, there had their
own preferences in choosing the radio stations or listening to different songs, those vendors all tuned to one station when hearing this song. All the sudden, everyone seemed to sing along resonating a choir and filled the market with joy.
‘Oh Umpawa-โอ้ อัมพวา’ however, brought me the aroma of a flower every time when I hear this song. กระถินณรงค์ Earleaf acacia (Acacia auriculiformis) was the trees around my dormitory at Kasetsart University. I was routinely waked up by this song which undoubtedly was my roommate’s favorite one. Walking to the bathroom at the end of the building, with my head was still somewhere else, there seemed to be only the scent of the flowers could penetrate into my absence brain. Repeatedly every morning for weeks, for months, those two elements; the song and the scent, eventually were blended into one and planted well somewhere in my memory. Mom, perhaps I could say song invokes a sense of fond remembrance and deja vu of the blissful past of my life.
Miss you,
ความรู้สึกที่น่าพิศวง
๑๐ ตุลาคม ๒๕๒๐
แม่ครับ
คนอเมริกันเป็นคนง่ายๆและเป็นมิตร พวกเขาทักทายคนแปลกหน้าตามท้องถนน ในร้านอาหาร และ ‘ไฮ๊’ เป็นคำยอดนิยมที่สุดในการเริ่มพูดทักทายกัน รวมถึงพูดคุยกับพ่อแม่ของตัวเองด้วย วันก่อนทีวีถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลมหาวิทยาลัย มีนักเรียนคนหนึ่งชูป้ายว่า ‘ไฮ๊ คุณแม่ รักนะ’ และกลับอีกด้านของป้าย ‘สวัสดีพ่อ ส่งเงินมารึยัง’ เห็นแล้วขำกลิ้งเลย ลูกกำลังเรียนรู้วิถีชีวิตของพวกเขาและคงจะมีความเป็นอเมริกันเข้ามาแทรกบ้างในไม่ช้าก็เร็ว วันนี้จึงใคร่ขอกล่าวสวัสดีด้วยคำว่า ‘ไฮ๊’
เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่มาอยู่ที่นี่ในอเมริกา การปรับเวลาไม่ได้เป็นปัญหา แต่หูทั้งสองข้างนี่สิ ระบมจนต้องถอดแว่นออกในตอนพลบค่ำเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยเพราะหูเรารองรับขาแว่นตลอดวัน ใส่แว่นมาสิบกว่าปีก็ไม่เคยปวดแบบนี้ เป็นไปได้ไหมว่าใบหูทั้งสองข้างทำงานหนักเกินไป คือด้วยความพยายามที่จะเข้าใจภาษาของเขาว่าผู้คนพูดอะไร หรือที่พยามยามจะฟังข่าวและพยากรณ์อากาศจากวิทยุ คาดว่าเส้นประสาทและเส้นเลือดในหูคงแทบระเบิดเพื่อกลั่นกรองเสียงที่ระดมมาถึงแก้วหู ก็ต้องขอบคุณเพลงเพราะๆฟังสบายๆที่ช่วยผ่อนคลายประสาทเรา
เอลวิสเพิ่งจากไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ได้ยินมาว่าผู้ถือบัตรคอนเสิร์ตของเขาแทนที่จะรับเงินคืนพวกเขากลับตัดสินใจเก็บตั๋วไว้เป็นที่ระลึก ลูกเองก็คงจะทำเช่นเดียวกันถ้ามีตั๋วคอนเสิร์ตนี้ เพลงของเอลวิสช่วยให้อารมณ์ดีเพลิดเพลิน ทุกครั้งที่ได้ยินเพลง Blue Hawaii จะนึกคิดว่าตัวเองอยู่บนหาดทรายจากภาพที่เห็นในหนัง เฝ้าดูดวงจันทร์ลดหลั่นลงมาเหนือชายหาดที่ถูกคลื่นซัดสาดต่อเนื่อง มีเพลงไทยสองสามเพลงที่ให้รู้สึกประมาณนี้
‘ถมไม่เต็ม’ เป็นเพลงที่พาลูกกลับไปที่ตลาดเทศบาล ๑ ตลาดสดหลักในโคราชสมัยนั้น เรามีแท่นขายประจำอยู่กลางตลาด สินค้ามีปลาซาร์ดีน ผ้าห่ม หรืออะไรก็ได้ที่มีคนซื้อ ฟังเพลงนี้ซ้ำๆสมัยฮิตๆก็ ๑๐-๒๐ ครั้งต่อวัน ทำให้การนั่งยองๆลุกขึ้นลงสิบกว่าชั่วโมงผ่อนคลายลงได้ ร้านข้างๆที่ขายผัก ผลไม้ ดอกไม้ ปลา อาหารทะเล หมู ไก่ ฯลฯ ต่างมีวิทยุทรานซิสเตอร์ของตัวเองเลือกฟังเพลงที่เขาชอบ แต่เขาเหล่านั้นต่างพร้อมใจกันปรับไปที่สถานีเดียวกันเมื่อได้ยินเพลงนี้ แล้วต่างก็ร้องเพลงประสานเสียงก้องตลาดด้วยกัน
ได้ยินเพลง‘ สาวอัมพวา’ทีไร ลูกได้กลิ่นหอมของดอกไม้ทุกที ต้นกระถินณรงค์ (Acacia Auriculiformis) เป็นต้นไม้ข้างตึก ๕ หอพักในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ลูกพักช่วงเรียนสี่ปี ทุกเช้าเราถูกปลุกด้วยเพลงนี้เป็นประจำ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเพลงโปรดของเพื่อนร่วมห้องทุกเช้าจะเดินไปที่ห้องน้ำท้ายอาคาร ในหัวเราที่ยังตื่นไม่เต็มที่มีเพียงกลิ่นของดอกไม้เท่านั้นที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในสมองที่ว่างเปล่า เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นปี เพลงและกลิ่นก็คงผสมเป็นหนึ่งเดียวและฝังไว้ที่ไหนสักแห่งในความทรงจำของลูก
แม่ครับ บางทีอาจพูดได้ว่าเสียงเพลงช่วยปลุกเร้าความรู้สึก ย้ำการรำลึกถึงความรักความผูกพันในอดีตให้กับทุกคน
คิดถึงแม่เสมอ
ตี๋